tag:blogger.com,1999:blog-73912338672309351092024-03-13T11:51:46.457-07:00My name is Ohmme. ^_^มุมเปรี่ยวhttp://www.blogger.com/profile/14878427607034807307noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-7391233867230935109.post-71096572822811052962011-11-14T07:22:00.000-08:002011-11-14T07:22:44.797-08:00มองดีๆมีคุณค่า<div style="text-align: left;">เด็กผู้หญิง : ช่วยด้วยๆ ! ช่วยหนูด้วย</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">เณรน้อย : หลวงพ่อคับ มีคนร้องให้เราช่วย เขาจะข้ามลำธาร</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">หลวงพ่อ : มาเถอะ....หนูน้อย ฉันจะอุ้มเธอข้ามลำธารนี้เอง</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">เณรน้อย : หลวงพ่อคับ..........</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">หลวงพ่อ : อ่าวหนูน้อย ฉันส่งเธอแค่นี้นะ</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">หลวงพ่อ : ไปกันต่อเถอะ คุณเณร....</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">..........ผ่านไปสักพัก......</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">เณรน้อย : หลวงพ่อคับ เราเป็นพระ ทำใมไปแตะต้องตัวผู้หญิงหละคับ</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">หลวงพ่อ : ฉันส่งเขาตั้งแต่ริมลำธารโน้นตั้งนานมาแล้ว คุณเณรยังอยู่ตรงนั้นอยู่หรือ........</div>มุมเปรี่ยวhttp://www.blogger.com/profile/14878427607034807307noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7391233867230935109.post-7416926734063263642011-11-13T20:05:00.000-08:002011-11-13T20:05:20.516-08:00ธรรมจาก พระธรรมสิงหบุราจารย์ ( หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม )<div style="text-align: center;"><b style="background-color: white; font-family: 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; line-height: 14px; text-align: left;">อดีตคือความฝัน</b></div><span class="caption" style="background-color: white; font-family: 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; line-height: 14px; text-align: left;"><div style="text-align: center;"><b><br />
</b></div><div style="text-align: center;"><b>ปัจจุบันคือความจริง</b></div><b><div style="text-align: center;"><b><br />
</b></div><div style="text-align: center;"><b>อนาคตคือสิ่งที่ไม่แน่นอน</b></div><div style="text-align: center;"><b><br />
</b></div><div style="text-align: center;"><b>อย่าจับให้มั่น อย่าคั่นให้ตาย</b></div><div style="text-align: center;"><b><br />
</b></div><div style="text-align: center;"><b>จะเสียใจตลอดชีวิต</b></div></b></span>มุมเปรี่ยวhttp://www.blogger.com/profile/14878427607034807307noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7391233867230935109.post-13634104990371549812011-11-13T07:03:00.000-08:002011-11-13T07:03:12.736-08:00ธรรมก่อนนอนค๊าบบ<b>ธรรม 3 ประการ </b><br />
<b> 1. ทักคิยะ ความเพียรอันมั่นคง</b><br />
<b> 2. สุริยะ ความกล้าหาญ</b><br />
<b> 3. ปัญญา ความรอบรู้ในอุบาย</b><br />
<b><br />
</b><br />
<b>ขณะนี้คุณมีหรือยังคับ?</b>มุมเปรี่ยวhttp://www.blogger.com/profile/14878427607034807307noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7391233867230935109.post-11059130575931690052011-11-13T05:35:00.000-08:002011-11-13T05:43:04.557-08:00แนะนำสถานที่แรก วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขต และประวัติย่อ หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต<b></b><br />
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody>
<tr><td align="middle" valign="top"><table bgcolor="#FFFFFF" border="0" bordercolor="#111111" cellpadding="0" style="border-collapse: collapse;"><tbody>
<tr><td valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody>
<tr><td valign="top" width="60%"><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านโคก เป็นวัดป่าของหลวงปู่ผางซึ่งเคยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ม ีชื่อเสียงเป็นที่เคารพ สักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว แต่มีอนุสรณ์สถานที่ บรรจุอัฐิของ หลวงปู่ผางอยู่ในบริเวณวัด วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีต้นไม้ป่าขึ้นอยู่ร่มรื่น เป็นวัดที่เน้นการปฏิบัติ วิปัสสนา การเดินทาง ไปตามเส้นทางขอนแก่น-ชุมแพ (ทางหลวงหมายเลข 12) ประมาณ 14 กม. แยกซ้ายเข้าเส้นทางสายบ้านทุ่ม-มัญจาคีรี (ทางหลวงหมายเลข 2062) อีกประมาณ 44 กม. แล้ว แยกเข้าเส้นทางสายมัญจาคีรี-ชัยภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 229) ประมาณ 12 กม. เลี้ยวขวาเข้าวัด อีก 12 กม.</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">“พระอริยเจ้าผู้เป็นที่พึ่งของเหล่าพวกกายทิพย์”</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">พระเดชพระคุณหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต ท่านเป็นที่พึ่งและเคารพของเหล่ากายทิพย์ มีภูตผี พยานาค เทวบุตร เทวดา เป็นต้น เหล่าเทวดามักเรียกชื่อท่านว่า “หลวงพ่อน้อยสัตย์ซื่อ” เพราะเทวดาเอาเหล็กไหลของศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาวางไว้ภายในถ้ำน้ำหนาวที่ ท่านพักภาวนาอยู่ ท่านไม่เคยจะสนใจจะหยิบฉวยเอาเลย</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านเป็นศิษย์สายกรรมฐานของท่านพระอาจารย์มั่นภูริทตฺโต ที่สำคัญยิ่งรูปหนึ่ง หลวงตามหาบัวได้กล่าวยกย่องว่า “ท่านเป็นพระประเภทเพชรน้ำหนึ่ง”</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านอุปสมบทถึง ๓ ครั้ง ครั้งสุดท้ายได้ถวายตัวเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นที่วัดบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร ท่านพระอาจารย์มั่นได้ให้โอวาทว่า “ให้เที่ยวไปองค์เดียว อยู่คนเดียว และตายคนเดียว”</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านมักมีความรู้แปลกๆ พิสดาร สามารถรู้ภาษาสัตว์ได้ ไม่ว่าสัตว์บกหรือสัตว์น้ำท่านสามารถสั่งสอนให้อยู่ในโอวาทได้อย่างน่า อัศจรรย์ โดยเฉพาะจระเข้กับงู มีความผูกพันใกล้ชิดกับท่านเป็นพิเศษ ท่านสามารถเรียกให้ไปมาได้ วันที่ท่านนิพพานจระเข้ที่ท่านเลี้ยงร้องไห้เสียงดังถึง ๓ วัน ท่านจึงมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องลึกลับที่ปุถุชนสัมผัสและเข้าใจได้ยาก</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านเป็นพระพูดน้อยแต่ปฏิบัติมาก ธรรมะที่ท่านแสดงใจความสั้นๆ แต่แหลมคมเช่นว่า“ชีวิตของเรามีเพียงบาตรใบเดียวก็อยู่ได้ และเพียงพอแล้ว” ท่านทรงจำภาษิตอีสานเก่าๆที่เป็นคติธรรม เตือนใจ เช่น “มีซือบ่ให้ปรากฎ มียศบ่ให้ลือชา มีตำราบ่ให้เฮียนยาก”</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">สิ่งใดๆก็ตาม ถ้าท่านได้ตั้งสัจจะว่าจะทำอะไรแล้ว ท่านจะต้องทำได้จริงๆ ถึงแม้นสิ่งนั้นๆจะยากลำบากสักเพียงใดก็ตาม ท่านจะพยายามทำให้สำเร็จจนได้</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">สัจจะบารมี คือคุณธรรมอันเลิศที่ท่านหลวงปู่ผางถือปฏิบัติ และเป็นปฏิปทาที่ควรถือเอาเป็นแบบอย่าง</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">หลวงปู่คำดี ปภาโส พระอริยเจ้าแห่งวัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย ได้กล่าวยกย่องหลวงปู่ผางว่า “หลวงพ่อผาง ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติจริงจังมาก ปฏิบัติแบบสละชีวิต ในคราวที่ท่านบำเพ็ญเพียรที่ถ้ำน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ในปี ๒๕๑๓ ได้พบโมกขธรรม (หลุดพ้น) จิตของท่านสว่างไสวทั้งกลางวันและกลางคืน</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านเกิดวันอังคารที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล ณ บ้านกุดกะเสียน ตำบลเขื่อนใน อำเภอเขื่อนใน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของ นายทัน และนางบัพพา ครองยุติ</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ปีพุทธศักราช ๒๔๖๕ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบทในคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ณ วัดเขื่องกลาง บ้านเขื่องใน ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระครูดวน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ดี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านศึกษาพระธรรมวินัย มีความรู้พอสมควร ต่อมาจึงได้ลาสิกขาจากสมณเพศ และได้มีครอบครัวตามประเพณีอยู่หลายปี แต่ไม่มีลูก</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ต่อมาเมื่ออายุได้ ๔๓ ปี จึงได้ชวนภรรยาออกบวช ภรรยาได้บวชเป็นแม่ชี ส่วนท่านบวชในคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายอีกครั้ง ที่วัดคูขาด บ้านศรีสุข ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระครูศรีสุดดาภรณ์ (ตื้อ)เป็นพระอุปัชฌาย์ ถึงอุปสมบทใสคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย แต่ท่านได้เข้าศึกษาอบรมพระกรรมฐานอยู่ในสำนักวัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล จึงเกิดความเลื่อมใสในคณะสงฆ์ฝ่ายอรัญญวาสี</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ต่อมาจึงได้ขอญัตติในคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต เมื่ออายุได้ ๔๗ ปี ในวันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๑ ณ วัดบ้านโนน หรือวัดทุ่ง โดยมีพระครูพินิจศีลคุณ (พระมหาอ่อน เจ้าคณะอำเภอเขื่องใน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาทรายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาจันทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">อบรมกรรมฐานอยู่ในสำนักท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม พอสมควรแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ปฏิบัติกรรมฐานไปหวิเวกโดยลำพัง และได้เข้าอบรมอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดบ้านหนองผืออยู่พอสมควร จากนั้นก็ท่องเที่ยววิเวกไปแต่ผู้เดียวในป่าเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นถิ่นทุรกันดารเป็นเวลานานหลายปี</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ปีพุทธศักราช ๒๔๙๒ จำพรรษาอยู่วัดป่าบัลลังก์ศิลาทิพย์ บ้านแท่น ๑ พรรษา แล้วธุดงค์ต่อไปยังภูผาแดง อำเภอมัญจาคีรี ชาวบ้าน เรียกสถานที่นั้นว่า “ดูน” มีน้ำไหลออกมาจากภูเขาตลอดปี และชาวบ้านแถวนั้นถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์ ไม่มีพระรูปใดเข้าไปอยู่ได้ ท่านอยู่จำพรรษา ณ สถานที่นั้นหลายปี และได้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดอุดมคงคาคีรีเขต”</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ในวันเสาร์ที่ ๓๐ เดือน เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกันทั้ง ๕ พระองค์ เพื่อปิดทองฝังลูกนิมิตและนมัสการหลวงปู่ผาง นับได้ว่าเป็นเกียรติประวัติครั้งสำคัญยิ่งของคณะศิษยานุศิษย์และชาวจังหวัด ขอนแก่นโดยแท้</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;"><br />
</span></div><div style="margin-left: 5px; margin-right: 5px;"><span style="font-size: x-small;">ท่านละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่วัดอุดมคงคาคีรีเขต เวลา ๑๖.๔๕ น. สิริรวมอายุได้ ๘๐ ปี ๓๔ พรรษา</span></div></td></tr>
</tbody></table></td></tr>
</tbody></table></td></tr>
</tbody></table>มุมเปรี่ยวhttp://www.blogger.com/profile/14878427607034807307noreply@blogger.com0